เฉลิมฉลองครบรอบ 110 ปี อย่างยิ่งใหญ่กับแบรนด์เครื่องประดับชั้นสูง “ชวนา” (CHAVANA) พร้อมเปิดตัวนิทรรศการ “Timeless Treasures” จัดแสดงสุดยอดผลงานจิวเวลรีหรู ระดับมาสเตอร์พีซและของสะสมโบราณ ให้เข้าชมตลอดเดือนสิงหาคมนี้

เครื่องประดับชั้นสูงนั้นเปรียบเสมือนผลงานศิลปะอันล้ำค่า ที่รังสรรค์ขึ้นโดยทักษะอันเชี่ยวชาญของช่างฝีมือระดับสูงที่มีความประณีตบรรจงและพิถีพิถัน สู่สุดยอดผลงานจิวเวลรีที่ควรค่าแก่การสะสม

เฉลิมฉลองครบรอบ 110 ปีอย่างยิ่งใหญ่ กับนิทรรศการ Timeless Treasures: From the Far East; Influence of Oriental Aesthetics’ ที่รวบรวมผลงานของสะสมโบราณและเครื่องประดับระดับมาสเตอร์พีซจากแบรนด์ ชวนา” (CHAVANA) ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากอารยะธรรมตะวันออกที่สะท้อนความเป็นนิรันดร์แห่งความงดงามของศิลปะตามแนวโอเรียลตัลลิสม์ (Orientalism) ถ่ายทอดสู่เครื่องประดับอันล้ำค่าควรค่าแก่การสะสม ซึ่งสามารถร่วมยลโฉมได้แล้ววันนี้ จนถึง 30 สิงหาคมนี้ ที่แกลเลอรี ATT 19 เจริญกรุง 30

“ชวนา” (CHAVANA) แบรนด์เครื่องประดับชั้นสูงสัญชาติไทย ได้เริ่มก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 2014 โดยทายาทรุ่นที่ 4 ในวาระเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวาระครบรอบธุรกิจเครื่องประดับของต้นตระกูลอย่าง ‘เมี้ยนเต็ก’ (Mian Teck) ซึ่งเป็นร้านเครื่องประดับรุ่นบุกเบิกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1914 ที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์สายตาในวงการเครื่องประดับทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศมาอย่างยาวนานกว่า 100 ปี ซึ่งแบรนด์ ชวนา” (CHAVANA) ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อสืบสานอัตลักษณ์ความวิจิตรงดงามของงานเครื่องประดับจากช่างฝีมือระดับสูงและสืบทอดเจตนารมณ์ในการรังสรรค์ผลงานเครื่องประดับชั้นสูงจากบรรพบุรุษ

อรุษา ศิริไกร ผู้อำนวยการฝ่ายการสื่อสารการตลาดแบรนด์ “ชวนา” (CHAVANA) กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดงานนิทรรศการครั้งนี้ว่า “เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 110 ปี ของธุรกิจการทำเครื่องประดับชั้นสูงจากบรรพบุรุษ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1914 จากร้านเล็ก ๆ เติบโตสู่ธุรกิจส่งออกเครื่องประดับระดับไฮเอนด์กลายเป็นที่รู้จักและยอมรับในระดับสากล ซึ่งเรานับเป็นทายาทรุ่นที่ 4 ของตระกูล จึงได้ก่อตั้งแบรนด์ “ชวนา” เพื่อสืบสานการทำเครื่องประดับชั้นสูงที่มีอัตลักษณ์โดดเด่นด้วยผลงานจากช่างฝีมือระดับปรมาจารย์ ซึ่งในโอกาสพิเศษนี้เราจึงอยากนำงานเครื่องประดับที่เต็มไปด้วยความวิจิตรงดงามและหาชมได้ยากมาจัดแสดงให้ทุกคนได้สัมผัสด้วยสายตาตนเอง จึงได้ร่วมมือกับทางแกลเลอรี่ศิลปะอันเลื่องชื่ออย่าง ATT 19 จัดนิทรรศการ “Timeless Treasures” เพื่อนำเสนอผลงานระดับมาสเตอร์พีซของ “ชวนา” โดยเราได้รวบรวมชิ้นงานล้ำค่ามาจากนักสะสมทั้งไทยและต่างชาติกว่า 70 ชิ้น มาร่วมจัดแสดงกับของสะสมโบราณจาก ATT 19 เพื่อสะท้อนแรงบันดาลใจและความเชื่อมโยงความงดงามของโลกตะวันออกจากในอดีตสู่ปัจจุบัน ซึ่งงานครั้งนี้นับว่ามีความพิเศษเป็นอย่างมาก และอยากให้ทุกคนที่ชื่นชอบในงานจิวเวลรีและศิลปะได้มาสัมผัส”

เครื่องประดับชั้นสูงจากแบรนด์ “ชวนา” (CHAVANA) ได้สืบทอดและอนุรักษ์เทคนิคการทำเครื่องประดับสไตล์ยูโรเปียนคราฟส์แมนชิพ (European Craftsmanship) จากบรรพบุรุษ โดยได้หยิบยกเรื่องราวจากงานศิลปะ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ในแง่มุมต่าง ๆ จากทั่วโลกหลากหลายยุคสมัยมาตีความใหม่ผสมผสานความเรียบโก้สไตล์โมเดิร์น ถ่ายทอดสู่เครื่องประดับที่มีความประณีตในทุกมิติของรายละเอียด เต็มเปี่ยมไปด้วยงดงามเหนือกาลเวลา ขับเน้นให้แต่ละคอลเลกชั่นนั้นเฉิดฉายด้วยคาแรกเตอร์เฉพาะตัว โดยเฉพาะเทคนิคและกระบวนการทักษะงานช่างชั้นสูง ที่จัดว่าเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ โดยเทคนิคงานออกแบบที่สำคัญ ได้แก่

  • Beaded Edge คือการเรียงร้อยเม็ดบีดส์ที่มีขนาดเล็กไปตามขอบของตัวเรือน โดยช่างฝีมือได้ใช้มือขึ้นรูปและรังสรรค์เม็ดบีดส์เล็ก ๆ เหล่านี้ด้วยความแม่นยำทีละเม็ดเพื่อให้มีเส้นผ่านศูนย์กลางที่เล็กกว่า 0.25 มิลลิเมตร มีการกดและหมุนวนผ่านขอบโลหะอย่างน้อย 3 ครั้งเพื่อสร้างเม็ดบีดส์ที่มีความสมบูรณ์แบบ เมื่อขึ้นรูปเป็นเกลียวต่อเนื่องข้างกันจะเกิดเป็นรูปร่างที่เน้นลวดลายของการออกแบบ ในขณะเดียวกันเทคนิค Beaded Edge จะช่วยทำให้โลหะที่ผ่านการขัดเงามีความละมุนขึ้นทั้งทางสายตาและผิวสัมผัส ด้วยการลดแสงสะท้อนเพื่อไม่ให้รบกวนการส่องประกายของเพชร
  • Gemstone Mosaic ด้วยแรงบันดาลใจจากศิลปะโมเสกของชาวโรมันโบราณ เทคนิคการประดับโมเสกอัญมณีด้วยอัญมณีคุณภาพสูงที่หลากสีสันและรูปร่างมาเรียงร้อยราวกับภาพวาดเพื่อให้เกิดความวิจิตรงดงาม โดยอัญมณีแต่ละเม็ดได้ผ่านการคัดสรรคุณภาพอย่างประณีต ผ่านการเจียระไนอย่างเชี่ยวชาญให้ได้ขนาดรูปทรงพิเศษทีละชิ้น เพื่อที่จะสามารถฝังเข้ากับตัวเรือนตามลวดลายที่ได้ออกแบบไว้อย่างพอดี มีการใช้เทคนิคการเจียระไนแบบพิเศษที่เรียกว่า Buff-top เป็นเทคนิคซึ่งผสมผสานการเจียระไนสองสไตล์แห่งความคลาสสิกเข้าด้วยกัน โดยด้านบนมีรูปทรงหลังเบี้ย (Cabochon top) ส่วนฐานล่างเจียระไนเป็นกระโจมคล้ายเพชร (Faceted bottom) ทำให้ขับความแวววาวที่โดดเด่นและสร้างมิติที่สวยจับตา การเชื่อมต่อของอัญมณีก่อเกิดเป็นลวดลายไล่มิติสีสันที่ไร้รอยต่อสะท้อนความงามเฉกเช่นผลงานของศิลปิน 
  • Petit-Point เทคนิคการเย็บปักถักร้อยแบบฝรั่งเศสที่ได้รับความนิยมในศตวรรษที่ 18 และใช้ในการทำงานผ้าที่มีความหรูหรา เทคนิคนี้ถูกนำมาประยุกต์ใช้กับโลหะ ผ่านการฝนทองคำให้บางและละเอียดจนดูเหมือนเส้นไหม งานฝีมือที่หาดูได้ยากนี้ต้องใช้ช่างฝีมือที่มีทักษะสูงในการเลื่อยเปิดช่องตารางสี่เหลี่ยมขนาดเล็กทีละช่อง ซึ่งแต่ละช่องมีความกว้างน้อยกว่า 1 มิลลิเมตร เพื่อทำเป็นลายตาข่ายแบบครอสติช ชิ้นงานที่ได้คล้ายผ้าแคนวาสแบบโลหะที่มีลวดลายซับซ้อนวิจิตรงดงามในทุกมุมมอง 
  • Embroidered Gold  เทคนิคการถักทอลวดลายบนโลหะ มีการยกนูนด้วยการตอกและการฉลุเพื่อสร้างเอฟเฟกต์หลายมิติคล้ายกับการปักไหมที่มีลวดลายอยู่บนพื้นหลัง ชิ้นงานจะมีลวดลายหลักที่โดดเด่น แต่มีองค์ประกอบโดยรอบที่มีการดุนลวดลายให้ต่างระดับลดหลั่นกันไป ทำให้เกิดการสร้างชิ้นงานสามมิติ ความพริ้วไหวของลวดลายที่เป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น เทคนิค Embroidered Gold นี้จะต้องใช้ช่างฝีมือระดับปรมาจารย์ที่มีประสบการณ์การทำงานกว่าหลายสิบปี รวมถึงจินตนาการที่เหนือชั้น ในการกำหนดว่าจะยกลายไหนและที่ระดับเท่าใด การทำให้ชิ้นงานมีความสูงต่ำต่างระดับเพียงเล็กน้อยกลับสร้างชิ้นงานให้ดูน่าหลงใหลไม่ว่าจะมองจากมุมใดก็ตาม
ภายในงานได้จัดโชว์ผลงานเครื่องประดับล้ำค่ามากมายที่มาจากคอลเลกชั่น The Momentous ผลงานชิ้นเอกที่ได้แรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมและอารยธรรมโลกตะวันออกที่ค้นหาและค้นคว้าจากตำนานเรื่องเล่าและเทพนิยาย นำมาสู่ธีมการสร้างสรรค์ผลงาน One-of-a-kind Wonders ซึ่งแต่ละชิ้นประกอบซ้อนสลับไว้ด้วยสัญลักษณ์แฝงนัยความหมายต่าง ๆ โดยส่วนใหญ่แล้วจะออกแบบจากวัสดุที่หายากล้ำค่าและมีหนึ่งเดียว อาทิ หยกจักรพรรดิแกะสลัก โอปอดำ จนถึงไข่มุกสังข์สีชมพูที่เจิดจรัสเหมือนมีเปลวไฟ โดยแต่ละชิ้นในคอลเลกชั่น Momentous ล้วนเป็นสมบัติล้ำค่าถูกตาต้องใจนักสะสมทั่วโลก สะท้อนสุนทรียะและจิตวิญญาณศิลป์ของผู้สวมใส่อย่างมีรสนิยม 

โดยเครื่องประดับไฮไลท์ที่ถูกนำมาจัดโชว์ภายในงานนิทรรศการครั้งนี้ประกอบด้วย กำไลข้อมือหลงเหมิน เครื่องประดับที่ถ่ายทอดเรื่องเล่าจากตำนานที่โด่งดังของจีน เรื่องราวเกี่ยวกับปลาคาร์ฟที่สามารถกลายร่างเป็นมังกรได้ โดยการว่ายทวนกระแสน้ำขึ้นไปจนถึงน้ำตกที่เรียกว่าประตูมังกร ซึ่งการขึ้นไปถึงที่นั่นแม้แต่ปลาเพียงตัวเดียวจากหนึ่งพันตัวก็เป็นเรื่องที่ยากจะเกิดขึ้นได้ เพราะต้นแม่น้ำเป็นช่วงที่กระแสน้ำมีความเชี่ยวกรากเป็นอย่างยิ่ง ปลาทุกตัวที่ว่ายทวนน้ำขึ้นไป จะถูกกระแสน้ำพัดตกลงมาตายหมดทุกตัว ซึ่งจะมีก็แต่เพียงปลาคาร์ฟเท่านั้น ที่สามารถว่ายทวนน้ำตกขึ้นไปได้ นิทานเรื่องนี้ถูกใช้เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนในการทำงานอย่างหนักเพื่อบรรลุเป้าหมาย 

เข็มกลัดมังกร มังกรเป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่ได้รับการเคารพนับถือมากที่สุดในตำนานจีน โดยเป็นสัตว์ ลำดับที่ 5 ในจักรราศีจีน มังกรเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจ ความแข็งแกร่ง และโชคลาภ มังกรถูกมองว่าเป็นสัตว์ที่มีเมตตา มักถูกวาดภาพเป็นผู้คุ้มครองผู้คนและผู้นำพาฝนที่จำเป็นต่อการเกษตร ในประวัติศาสตร์มังกรยังเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจและปัญญาของจักรพรรดิซึ่งเป็นตัวแทนของอำนาจสูงสุดของผู้ปกครอง โดยเข็มกลัดชิ้นนี้มีลวดลายเข็มที่ถูกออกแบบให้เป็นมังกรที่กำลังไล่ตามไข่มุกแห่งปัญญาอันลุกโชติช่วงท่ามกลางเมฆมงคล 

เข็มกลัดผีเสื้อ ผีเสื้อเป็นสัญลักษณ์ของความรัก ความสุข และความโรแมนติก ในตำนานจีนผีเสื้อเป็นสัญลักษณ์ของความกลมเกลียวในชีวิตคู่ ในงานศิลปะจีนผีเสื้อมักถูกวาดคู่กับดอกไม้ซึ่งเป็นตัวแทนของชีวิตที่มีความสุขและรุ่งเรือง นอกจากนี้ผีเสื้อยังถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของวัยหนุ่มสาวและความสุขในชีวิตสมรส ปรากฎอยู่บ่อยครั้งในงานตกแต่งงานแต่งงานและศิลปะโรแมนติก 

เข็มกลัดหมูมังกร เครื่องประดับที่มีถูกตกแต่งด้านหนึ่งเป็นการแกะสลักรูปหมูมังกรจากอารยธรรมหงชานของจีน ซึ่งหมูมังกรถูกเชื่อว่าเป็นตัวแทนของมังกรแรกในวัฒนธรรมจีน และอีกด้านหนึ่งถูกการแกะสลักเป็นรูปมนุษย์ที่แทนเทพเจ้าพระอาทิตย์ วัตถุโบราณหายากเหล่านี้มีคุณค่ามากกว่าแค่ความสวยงาม แต่ยังถูกใช้ในทางจิตวิญญาณและพิธีกรรมด้วย

อิเคบานะบนแจกันหยกสีลาเวนเดอร์ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสไตล์โชกะของอิเคบานะ ซึ่งเป็นประเพณีโบราณของญี่ปุ่นที่ถูกกำหนดในสมัยเอโดะ เพื่อจัดแสดงดอกไม้ในรูปแบบสามกิ่งไม่สมมาตร แทนสัญลักษณ์ของสวรรค์ มนุษย์ และโลก

ร่วมยลโฉมเครื่องประดับระดับตำนานจากแบรนด์ “ชวนา” (CHAVANA) ในงานนิทรรศการ “Timeless Treasures” ตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึงวันที่ 30 สิงหาคมนี้ ที่ Art Gallery ATT 19 ซอยเจริญกรุง 30 ติดตามรายละเอียดได้ที่ IG: chavana_official, www.chavanajewelry.com หรือชมเครื่องประดับชั้นสูงได้ที่ช็อปบูทีค “CHAVANA” ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ชั้น 1
Find More Love