แร่ธาตุ ไฟเบอร์ที่ดีต่อสุขภาพ และให้แคลอรีต่ำแล้ว ผลไม้รสเปรี้ยวยอดนิยมจากประเทศญี่ปุ่นนี้ ยังสามารถนำไปเป็นส่วนประกอบในเมนูต่างๆ ได้หลากหลาย ช่วยชูโรงรสชาติของความสดชื่นและกลมกล่อมได้ถูกปากกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งความยูนีคหรือความแตกต่างของส้มชนิดนี้ที่ทำให้มีราคาสูงกว่าส้มสายพันธุ์อื่นๆ คือความยากในการเก็บเกี่ยว เพราะต้องเป็นฤดูกาลที่เหมาะสม มีอากาศเย็นและแสงแดด ในช่วงเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคมของแต่ละปี และใช้เวลาการปลูก 15 – 20 ปีต่อการเก็บเกี่ยว 1 ครั้ง โดยหนึ่งในแหล่งผลิตยูซุที่ดีที่สุดอย่างจังหวัดโทะคุชิมะในภูมิภาคชิโกะกุ มีการเพาะปลูกและเก็บเกี่ยวสายพันธุ์ยูซุบนพื้นที่ในลุ่มแม่น้ำระหว่างหุบเขาที่ระดับความสูงเฉลี่ย 300 – 500 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล และมีอุณหภูมิของดินตั้งแต่ -10 ถึง 40 องศาเซลเซียส ทำให้ได้ผลผลิตของยูซุที่มีลักษณะของผิวที่หนา รสชาติเปรี้ยวเข้มข้น และมีกลิ่นหอมเฉพาะที่ไม่เหมือนแหล่งเพาะปลูกอื่น ซึ่งสายพันธุ์ดังกล่าวจะเป็นสายพันธุ์ที่ใช้เป็นวัตถุดิบหลักของ “Cheers Selection Japanese Yuzu”